00.00฿

Shopping Cart

close

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

Return to shop
00.00฿

Shopping Cart

close

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

Return to shop

เลือกโรงพิมพ์อย่างไรให้ตรงใจ ?

By Somprint

05 April, 2021

factory
โรงพิมพ์สติกเกอร์มีหลากหลายที่มากในปัจจุบันนี้ และปัจจัยสำหรับการเลือกโรงพิมพ์ก็ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเป็นโรงพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยสำหรับการเลือกโรงพิมพ์มีหลายอย่างให้พิจารณา อย่าเพิ่งปวดหัวกันไป การเลือกโรงพิมพ์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร สามารถเลือกได้อย่างง่ายดายเลยด้วยซ้ำ หากพิจารณาตามเกณฑ์ดังนี้

1. คุณภาพของงาน

สิ่งสำคัญอันดับ 1 สำหรับการเลือกโรงพิมพ์เลยทีเดียว โรงพิมพ์ที่ดี คุณภาพของงานก็จะต้องดีตามไปด้วย ซึ่งหลายๆ คนอาจจะลืมนึกถึงความสำคัญในข้อนี้ไป เพราะต่างก็จะคิดว่า โรงพิมพ์ที่มีราคาแพง โรงพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ มีชื่อเสียง คุณภาพยังไงก็ต้องดีแน่นอน ผิดแล้ว! ไม่ใช่เสมอไป เนื่องจากบางอย่างก็อาจเป็นการตลาดแฝงมากับการโฆษณาได้ เพราะฉะนั้นควรตรวจสอบผลงานของโรงพิมพ์แต่ละแห่งให้ดี ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร และมีคุณภาพดีจริงตามโฆษณาที่กล่าวอ้างไว้หรือเปล่า

2. การบริการ

การบริการ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน โดยส่วนมากมักจะลืมพิจารณาในเรื่องของการบริการ เพราะต่างก็คิดว่า หากคุณภาพดีก็เพียงพอแล้ว แต่แท้จริงแล้ว โรงพิมพ์ที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพของงานที่ดี แต่การบริการก็ต้องดีด้วย นั่นแปลว่าโรงพิมพ์นั้นให้ความใส่ใจกับลูกค้าอย่างแท้จริง การบริการที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน หรือในกรณีที่คุณมีปัญหา คุณก็ยังสามารถติดต่อสอบถามได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นหากโรงพิมพ์ที่ไหนที่มีการตอบกลับทันทีที่คุณมีการติดต่อไป มีการให้คำแนะนำในด้านที่คุณต้องการ ให้รายละเอียดอย่างครบถ้วน คอยรายงานขั้นตอนการผลิตให้คุณได้คอยติดตามอยู่ตลอดเวลา แสดงว่าโรงพิมพ์นั้นให้ความใส่ใจในเรื่องของการบริการ

3. การส่งมอบงาน

เรื่องของการส่งมอบงาน เป็นเรื่องของความรับผิดชอบ ซึ่งไม่ว่าจะโรงพิมพ์หรือตัวบุคลากรในโรงพิมพ์ หากละเลยความรับผิดชอบในการทำงาน แปลว่าโรงพิมพ์นี้ไม่ควรอยู่ในการพิจารณาของคุณ เนื่องจากว่าโรงพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบ จะทำให้กระทบต่อธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณได้ โรงพิมพ์ที่ดีจะมีกระบวนการผลิตงานที่เป็นขั้นตอน เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพและตรงต่อเวลาที่สุด

4. ราคา

โดยทั่วไปแล้ว ลูกค้ามักจะพิจารณาจากเรื่องของราคาเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ที่ลูกค้าต้องการได้รับสิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด แต่สิ่งที่ต้องยอมรับตามมานั่นคือ เรื่องของคุณภาพงาน โรงพิมพ์ต่างก็ต้องการตีตลาดในด้านของราคา ว่าตัวเองมีราคาถูกที่สุด แต่ในด้านคุณภาพก็จำเป็นต้องลดคุณภาพด้านการพิมพ์ลง เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด เพราะฉะนั้น น้องส้มไม่ขอแนะนำว่าให้เลือกที่ราคาถูก หรือราคาแพง แต่น้องส้มอยากให้เลือกจากของคุ้มค่าในด้านของราคามากกว่า หากราคาถูก แน่นอนว่าคุณภาพงานไม่อาจเทียบเท่าราคาที่สูงกว่านี้ได้ แต่จะคุ้มค่าต่องบประมาณที่เสียไปหรือไหม

5. ระบบการพิมพ์

ระบบการพิมพ์มีหลายระบบมาก เนื่องจากว่าสติกเกอร์แต่ละประเภทมีการนำไปใช้งานที่หลากหลาย ทำให้จำเป็นต้องมีระบบการพิมพ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองต่อการนำไปใช้งานของสติกเกอร์ คุณสามารถพิจารณาจากระบบการพิมพ์ได้ด้วยการตรวจสอบว่า หากโรงพิมพ์นี้ มีเพียงระบบการพิมพ์แบบเดียว แล้วระบบนี้รองรับต่อการนำไปใช้งานของคุณมากน้อยแค่ไหน ? แต่หากเป็นโรงพิมพ์ที่มีระบบการพิมพ์หลากหลาย คุณจะสามารถตัดสินใจเลือกระบบการพิมพ์ที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งานของคุณให้ดีที่สุดได้ แต่อย่าลืม! ว่าคุณก็ต้องพิจารณาให้ประเด็นอื่นๆ ด้วย

6. ขนาดของโรงพิมพ์

หลายๆ คนอาจคิดว่า โรงพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ มักจะได้มาตรฐาน และมีการรองรับที่หลากหลายมากกว่าโรงพิมพ์ขนาดเล็ก ถ้าถามน้องส้มว่าจริงไหม ? น้องส้มคิดว่า มีทั้งจริงและไม่จริง บางโรงพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ ก็ได้มาตรฐานจริง แต่สำหรับบางโรงพิมพ์ ก็เป็นเพียงแค่การโฆษณาเท่านั้น น้องส้มจึงอยากให้ตรวจสอบให้ดีว่าโรงพิมพ์ขนาดใหญ่นี้ ได้รับมาตรฐานจริงไหม และสิ่งที่ต้องแลกกลับมา คงเป็นในเรื่องของราคา แน่นอนว่าหากโรงพิมพ์มีขนาดใหญ่ ได้รับมาตรฐาน ราคาก็คงจะสูงตามไปด้วย เพราะฉะนั้น น้องส้มว่า ควรพิจารณาจากอะไรหลายๆ อย่างจะดีที่สุด
พอจะเข้าใจหลักการในการเลือกโรงพิมพ์กันมากขึ้นกว่าเดิมบ้างไหมฮะ ? น้องส้มคิดว่าทั้ง 6 ข้อ ที่น้องส้มได้กล่าวมาทั้งหมด ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถพิจารณาจากข้อใดข้อหนึ่งได้ แต่น้องส้มแนะนำว่าให้พิจารณาจากทุกข้อเลย เช่นหากคุณต้องการจะเลือกโรงพิมพ์จริงๆ ก็ควรจะเริ่มพิจารณาตั้งแต่เรื่องของคุณภาพ การบริการ การส่งมอบงาน ราคา ระบบการพิมพ์ จนถึงขนาดของโรงพิมพ์กันเลยทีเดียว โดยที่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้ง 6 ข้อต่างก็มีความขัดแย้งกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะได้โรงพิมพ์ที่ตรงใจครบทั้ง 6 ข้อ เพียงแต่อาจได้โรงพิมพ์ที่ตรงใจ และทั้ง 6 ข้อก็อยู่ในเกณฑ์พอประมาณที่พอจะรับได้ทั้ง 6 ข้อ น้องส้มว่าแบบนี้แหละถึงจะเรียกว่า “ความพอดี” เราไม่จำเป็นต้องที่สุด แค่พอดี น้องส้มว่าเราก็สบายใจแล้ว